เขียน RESUME อย่างไร พิชิตใจ HR
14 กันยายน 2565
เมื่อพูดถึงเรซูเม่ (RESUME) ทุกคนคงรู้จักกันดี โดยเฉพาะคนหางาน คนที่จบการศึกษาใหม่ ก่อนเริ่มหางานก็ต้องเขียนเรซูเม่เพื่อใช้ในการสมัครงาน คนที่ทำงานแล้ว หากต้องการเปลี่ยนงาน ก็ต้องทำเรซูเม่สำหรับสมัครงานใหม่ HR จะเรียกคนมาสัมภาษณ์ ก็จะดูจากเรซูเม่ ถ้าเขียนเรซูเม่ได้ดี ก็มีโอกาสได้เข้าสัมภาษณ์มากกว่าคนที่เขียนไม่ได้เรื่องเห็นแล้วใช่ไหมคะว่าเรซูเม่สำคัญอย่างไร
1. ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Details) เป็นข้อมูลเกี่ยวกับชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ e-mail สำหรับติดต่อ เพศ อายุ วันเดือนปีเกิด ส่วนสูง น้ำหนัก ที่อยู่ สถานภาพสมรส ศาสนา สถานภาพทางทหาร สัญชาติ เชื้อชาติ งานอดิเรก รวมถึงต้องมีรูปถ่ายที่ดูดี ดูสุภาพ รูปสีก็ยิ่งดี
2. ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่สนใจ ต้องการสมัครงานตำแหน่งใด สายงานใดต้องระบุให้ชัดเจน (สนใจมากกว่า 1 ตำแหน่งก็บอกได้) ตำแหน่งที่สมัครต้องตรงกับตำแหน่งที่ประกาศงาน สอดคล้องกับวุฒิการศึกษา และประสบการณ์ทำงาน และหากเป็น Platform บริการหางาน จะใช้ตำแหน่งงานในการค้นหาคนที่สนใจตำแหน่งงานที่ประกาศ จึงถือว่าสำคัญมาก
3. การศึกษา (Education) ให้เรียงจากระดับการศึกษาสูงสุดไปยังระดับการศึกษาต่ำสุด เพียงแค่ระดับมัธยมศึกษา ไม่ต้องถึงประถม โดยแต่ละระดับการศึกษาให้ระบุเรียงตามสถาบันการศึกษา เริ่มจากที่จบหลังสุด (หากจบจากหลายสถาบัน) โดยให้เขียนเกี่ยวกับ ปริญญาที่ได้รับ สาขา คณะ สถาบันการศึกษา เกรดเฉลี่ย ปีที่จบการศึกษา กรณีจบจากต่างประเทศให้บอกด้วยว่าประเทศอะไร และหากได้รับรางวัล เช่น เกียรตินิยม ก็ให้ระบุไว้ด้วย ในการเขียนประวัติการศึกษานี้ ขอแนะนำควรเขียนให้ครบถ้วน (สอดคล้องกับหลักฐานการศึกษาที่แนบมากับเรซูเม่) และควรทำเป็นตารางให้ดูง่าย อย่าเขียนบรรยายเป็นพรืด อ่านยาก
5. การฝึกอบรม (Training) ในระหว่างเรียน ระหว่างทำงาน เชื่อว่าคุณคงเคยเข้าฝึกอบรมมาแล้ว มากบ้างน้อยบ้าง คงต้องมีบ้างล่ะ ขอแนะนำว่าควรมีหัวข้อที่ระบุเกี่ยวกับการฝึกอบรมที่สำคัญๆ ไว้ด้วย ช่วยให้เราน่าสนใจมากขึ้น เริ่มจากหลักสูตรที่อบรมล่าสุด โดยให้ระบุชื่อหลักสูตรหรือหัวข้อฝึกอบรม หน่วยงานที่จัด ช่วงเวลาที่จัด ประกาศนียบัตรที่ได้รับ (ถ้ามี) การเขียนหัวข้อนี้ ก็อาจเป็นปัญหาสำหรับคนทำงานที่มักจะไม่ได้เก็บรายละเอียดไว้ พอจะเขียนก็จำไม่ได้แล้ว ก็ขอแนะนำไว้ว่าทุกครั้งที่ฝึกอบรมแล้ว ควรมาอัพเดทเรซูเม่ไว้
6. คุณสมบัติพิเศษ (Special Qualification) ส่วนนี้จะระบุเกี่ยวกับความสามารถต่างๆ ได้แก่ การใช้ภาษาต่างประเทศ (ฟัง พูด อ่าน เขียน ในระดับใด ดีมาก ดี หรือพอใจ) ความสามารถในการใช้โปรแกรม (ควรระบุรายละเอียด โดยเฉพาะตำแหน่งด้าน IT) ความสามารถอื่นๆที่ช่วยการทำงาน (เช่น graphic design, infographic, Powerpoint) ความสามารถด้านการขับขี่ ความเป็นเจ้าของยานพาหนะ (เป็นประโยชน์สำหรับบางตำแหน่ง) มีอะไรดีก็ควรบอกให้ละเอียด ควรเฉพาะที่เกี่ยวกับการทำงาน และต้องตรงกับความจริง พิสูจน์ได้
TAGS : บทความผู้หางาน , RESUME , HR , การเขียนเรซูเม่